ไอเลิฟไลบรารี่ สร้างตลาดลุยอีบุ๊ก

 ตลาดอีบุ๊กสบโอกาสสร้างตลาดครั้งใหม่ จากการที่ “โอเพ่นเซิร์ฟ” ผุด “ไอ เลิฟ ไลบรารี่” (I Love Library) เวอร์ชั่น 3.1 บุกตลาดเต็มสูบ หลังซื้อธุรกิจคืนจากบริษัท โซลูชั่น คอร์เนอร์ เชื่อว่านับจากนี้ตลาดจะคึกคักมากขึ้นและเชื่อว่าจะเติบโตเต็มที่ในอีก 2 ปีข้างหน้า
              กระแสคลื่นแท็บเลต และสมาร์ตโฟนที่เพิ่มดีกรีความนิยม ถือเป็นแรงกระแทกสำคัญที่ทำให้ธุรกิจหนังสือต้องเปลี่ยนถ่ายตัวเองมาสู่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์อย่างปฏิเสธไม่ได้ จะเห็นได้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ค่ายหนังสือเริ่มปรับตัว ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่นบุ๊กสโตร์ เพื่อรองรับเทรนด์อีบุ๊กที่กำลังมาแรง
              ทว่ารูปแบบส่วนใหญ่ยังเป็นการซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาพัฒนาเอง ส่งผลให้มีการแบ่งรายได้ออกหลายส่วน โดยสำนักพิมพ์จะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 40-50% ทำให้ราคาอีบุ๊กลดลงได้ไม่มาก เมื่อเทียบกับราคาหนังสือปกกระดาษจึงแทบไม่ต่างกัน จึงไม่เกิดแรงจูงใจในการซื้อมากนัก
              นอกจากนี้ การที่สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ยังไม่ยอมปรับคอนเทนต์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิตอล เนื่องจากกังวลการละเมิดลิขสิทธิ์ กอปรกับโมเดลการทำตลาดยังเน้นการขายอีบุ๊กในลักษณะของการให้สิทธิพิเศษแก่ช่องทางจำหน่ายช่องทางใดช่องทางหนึ่งอยู่ อีกทั้งบางค่ายมีเก็บค่าโหลดหนังสือ ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตลาดอีบุ๊กยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายในช่วงที่ผ่านมา
       
       “อีบุ๊กเพิ่งเข้าสู่การเติบโต เชื่อว่าในปี 2557 ผู้ใช้จะยอมรับอีบุ๊กมากขึ้น และตลาดจะเปลี่ยนเป็นของสำนักพิมพ์ โดยมีพลังในการต่อรองมากขึ้น”
       
       นิทัศน์ มณีศิลาสันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเพ่นเซิร์ฟ จำกัด บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้ทิศทางอีบุ๊กมีแนวโน้มที่ดี มาจากโครงการแท็บเลต ป.1 ของภาครัฐ บวกกับราคาแท็บเลตเริ่มถูกลง และตอบโจทย์เรื่องการอ่าน
              จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ค่ายโอเพ่นเซิร์ฟ ผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์อีบุ๊กสัญชาติไทย มองเห็นโอกาส และรุกเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ได้เข้าซื้อกิจการจาก บริษัท โซลูชั่น คอร์เนอร์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และนำร่องโปรแกรมอีบุ๊ก เวอร์ชั่น 2.0 ลุยตลาด จนปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานดาวน์โหลด 3 แสนราย หนังสือกว่า 1,000 ปก
              ล่าสุด ยังเดินเครื่องต่อเนื่อง พัฒนาโปรแกรมอีบุ๊กเวอร์ชั่นใหม่ ไอ เลิฟ ไลบรารี่ 3.1 สำหรับสร้างและอ่านอีบุ๊กได้ด้วยตัวเอง เป็นเวอร์ชั่นที่รองรับการใช้งานพีซีและแท็บเลตทั้ง 3 แพลตฟอร์มคือ วินโดวส์, แอนดรอยด์ และไอโอเอส ซึ่งมีทั้งแบบใช้งานได้ฟรีแต่จำกัดขนาดไฟล์ของหนังสือและมัลติมีเดีย และอีกเวอร์ชั่นสำหรับทำงานบนเครือข่ายเพื่อใช้งานในองค์กร ที่มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป
              “ตอนนี้เราเน้นแจกฟรี เพราะต้องการตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมอ่านฟรี อีกทั้งต้องการให้คนเอาซอฟต์แวร์ไปใช้งานในวงกว้างมากขึ้น โดยตั้งเป้าสิ้นปีจะมียอดผู้ใช้ดาวน์โหลด 1 ล้านราย”
นอกจากการให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าไปโหลดอีบุ๊กอ่านได้ฟรีแล้ว ยังนำร่องแจกฟรีโปรแกรมอีบุ๊กให้โรงเรียน 130 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้นักเรียนและครูทดลองใช้โปรแกรมอีบุ๊กด้วยตัวเอง
              ส่วนแผนการขับเคลื่อนในอนาคต เมื่อ ไอ เลิฟ ไลบรารี่ กระจายในวงกว้าง โอเพ่นเซิร์ฟจะต่อยอดทำเป็นเวอร์ชวล พับลิชชิ่ง เพื่อเป็นสื่อกลางจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะเริ่มให้บริการประมาณกลางปีนี้ อีกทั้งยังมีแผนจะขยายตลาดในต่างประเทศ ตอนนี้เริ่มเข้าไปในมาเลเซียและแคนาดา ผ่านพันธมิตรด้านไอที
       
       จากแผนการทำตลาดเชิงรุกดังกล่าว โอเพ่นเซิร์ฟเชื่อว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้ของอีบุ๊กปีนี้เติบโตขึ้นเป็น 1 ใน 4 จากปีที่ผ่านมามีสัดส่วนไม่ถึง 10% และจะเป็นฐานรายได้หลักในอนาคต จากปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ยังเป็นการรับติดตั้งระบบไอที (เอสไอ) และการขายโปรแกรมสร้างอีบุ๊ก 

แหล่งที่มา :ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์